วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
แจก 12 ที่เที่ยวน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ แช่น้ำชิลล์ ไว้เที่ยววันสงกรานต์!
น้ำตกสาริกา
“น้ำตกสาริกา” เป็นอีกหนึ่งน้ำตกยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ ผืนป่า ธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตำบลสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีถึง 9 ชั้น ผาชั้นสูงสุดเกือบ 200 เมตร
ในแต่ละชั้นมีความงดงามแตกต่างกันไปและมีแอ่งน้ำเหมาะกับการแช่น้ำเย็นฉ่ำผ่อนคลาย
ไม่ไกลกันก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอย่างถ้ำสาริกา ที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกด้วย
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 20 บาท
เด็ก 10 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3049 สาริกา , เมืองนครนายก , นครนายก
เบอร์ติดต่อ 095-805-0000
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 17:00
นํ้าตกนางรอง
“น้ำตกนางรอง” น้ำตกขนาดกลางที่ยังคงสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติอีกที่หนึ่ง ด้วยความเป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่นักจึงเป็นจุดยอดนิยมสำหรับคนชอบน้ำตก สามารถลงแช่น้ำได้อย่างสบายใจ แต่ละชั้นมีแอ่งรองรับน้ำขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งยังมีน้ำไหลผ่านตลอด ถือว่าเป็นน้ำตกที่ชิลล์สุด ๆ อีกทีหนึ่งในจังหวัดนครนายกเลย
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
คนละ 10 บาท
รถยนต์คันละ 50 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงหมายเลข 3049 หินตั้ง , เมืองนครนายก , นครนายก
เบอร์ติดต่อ 083-679-9883
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 16:00
นํ้าตกเจ็ดสาวน้อย
“น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” น้ำตกใสสุดฮิตเมืองสระบุรี เป็นน้ำตกชั้นเตี้ยสูง 7 ชั้น ธารน้ำมีขนาดกว้างเป็นแอ่งขนาดใหญ่หลายแห่ง ที่สำคัญคือไม่ลึกมากจนเกินไป ผู้คนจึงชอบที่จะมาเล่นน้ำตกที่นี่ ไม่แปลกใจเลยว่ามากี่ครั้ง ๆ น้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ยังเป็นจุด Popular สำหรับคนที่อยากพักผ่อนในช่วงเวลาสั้น ๆ
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
คนละ 20 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2224 มวกเหล็ก , มวกเหล็ก , สระบุรี
เบอร์ติดต่อ 036-346-586
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 17:00
นํ้าตกกระทิง
“น้ำตกกระทิง” อีกหนึ่งน้ำตกที่น่าสนใจในจังหวัดจันทบุรี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีถึง 13 ชั้น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ช่วงบนเป็นผาน้ำตกที่เปิดโล่งสวยงามจับใจ ส่วนต้นน้ำก็มีแหล่งกำเนิดมาจากเขาคิชฌกูฏ พื้นที่ส่วนใหญ่ยังถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ พันธุ์ไม้นานาชนิด และในน้ำตกก็ยังเต็มไปด้วยปลาพลวงหินมากมาย ถือว่าเป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่อุดมสมบูรณ์สุด ๆ
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 40 บาท
เด็ก 20 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงหมายเลข 3249 (จากกรุงเทพเส้นสุขุมวิทถึงแยกเขาไร่ยาเลี้ยวซ้ายไปอำเภอเขาคิชกูฎ ตรงไปตามป้ายบอกทางประมาณ 23 กิโล เลี้ยวขวาตรงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตรงเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโล) พลวง , เขาคิชฌกูฏ , จันทบุรี
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 16:30
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกพลิ้ว
เมืองจันท์ไม่ได้มีดีแค่สวนผลไม้นะจ๊ะ น้ำตกก็ถือว่างดงามไม่แพ้ที่ไหน “น้ำตกพลิ้ว” สามารถมาได้ทุกฤดู เพราะน้ำตกยังคงความงดงามอยู่เสมอ ที่สำคัญอากาศยังคงสดชื่นเนื่องจากป่ายังคงเต็มพื้นที่คอยคลายความชื้น น้ำตกพลิ้วมีธารหลัก 2 สาย สายหนึ่งไหลจากหินผา และอีกสายทิ้งตัวมาจากผาสูง จึงทำให้น้ำใสมาก เพราะผ่านการกรองน้ำแบบธรรมชาติ พระเอกของน้ำตกนี้ก็คือปลาพลวงหินที่แหวกว่ายคู่ไปกับสายน้ำอย่างสบายใจ
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 40 บาท
เด็ก 20 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงหมายเลข 3 (บตรงไปทางจังหวัดจันทบุรี ประมาณ 78 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้าย ( หลักกิโลเมตรที่ 347 - 348 ) จากนั้นขับตรงไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร) คมบาง , เมืองจันทบุรี , จันทบุรี
เบอร์ติดต่อ 03-943-4528
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:30 - 16:30
นํ้าตกผากล้วยไม้
"น้ำตกผากล้วยไม้" ตั้งอยู่ในบริเวณของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องธรรมชาติเพราะทั้งพันธุ์พืช ผืนป่า และสัตว์น้อยใหญ่ ยังคงสมบูรณ์ แถมบริเวณนั้นก็ยังเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมของเขาใหญ่สามารถเดินไปถึงน้ำตกได้เลย (แต่ใช้เวลานิดหนึ่งนะจ๊ะ) ระหว่างทางก็ชมทัศนียภาพที่ยังคงเขียวชอุ่ม ถ่ายรูปเพลินสุด ๆ ขอบอก น้ำตกผากล้วยไม้เป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงามมาก แค่สูดลมหายใจลึก ๆ ฟอกปอดรับอากาศดี ๆ ก็คุ้มค่าแล้ว
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 40 บาท
เด็ก 20 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3182 (จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ต่อไปทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) ผ่านตัวเมืองนครนายกถึงสี่แยกเนินหอม ก่อนเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวง จังหวัดหมายเลข 3077 (ถนนปราจีนบุรี – เขาใหญ่) รวมระยะทางประมาร 160 กิโลเมตร) หมูสี , ปากช่อง , นครราชสีมา
เบอร์ติดต่อ 04-421-3666
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 16:30
นํ้าตกห้วยแม่ขมิ้น
“น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” อยู่ทางทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขากะลา ถือเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพ ด้วยความงดงามของชั้นผา 7 ชั้น และทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม ใครที่แวะมาต้องประทับใจในความงามอย่างแน่นอน
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก 50 บาท
รถยนต์คันละ 30 บาท
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงชนบท กจ. 6043 นาสวน , ศรีสวัสดิ์ , กาญจนบุรี
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:30 - 17:00
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
“น้ำตกเอราวัณ” น้ำตกชื่อกระฉ่อนในเมืองไทยที่ห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง! ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีระยะทางประมาณ 1,500 กม. ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 7 ชั้น เดิมชื่อว่า “น้ำตกสะด่องม่องลาย” ตามลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำ โดดเด่นด้วยน้ำใสสีฟ้าอมเขียว ที่ชั้น 3 ยังเคยเป็นที่ถ่ายทำละครดังเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพอีกด้วย!
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก 50 บาท
รถยนต์คันละ 30 บาท
ตั้งอยู่ที่ ถนนบรมราชชนนี (ทางเข้าเขตเขื่อนศรีนครินทร์ ให้ขับไปถนนทางซ้าย เลียบลำน้ำแควใหญ่ ผ่านด่านของ กฟผ. มาจะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปทางน้ำตกห้วยขมิ้น เจอตลาดเทศบาลเอราวัณ) ท่ากระดาน , ศรีสวัสดิ์ , กาญจนบุรี
เบอร์ติดต่อ 034574222
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:30 - 18:00
นํ้าตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคใหญ่เป็นน้ำตกคู่บ้านคู่เมืองของกาญจนบุรี อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ภายในอุทยานสามารถเช่าบ้านพักอุทยานหรือกางเต็นท์ค้างคืนได้ ที่นี่มีร้านอาหารไว้คอยบริการด้วยค่ะ ส่วนรอบ ๆ น้ำตกและรอบ ๆ อุทยานก็มีบริการทัวร์ล่องเรือแม่น้ำแควน้อยของเอกชนไว้บริการมากมาย น้ำตกจะไหลจากลำธารแล้วไหลสู่ลำน้ำแควน้อยในท้ายที่สุด ซึ่งสามารถล่องแพเล่นน้ำตกได้นะคะ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมที่จะล่องแพมาเพื่อเล่นน้ำตกที่นี่ เรียกได้ว่า น้ำตกนี้สามารถเดินทางได้ทั้งทางบกและทางน้ำเลย (โดยคุณ Natcha.t)
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงชนบท กจ. ไทรโยค , ไทรโยค , กาญจนบุรี
เบอร์ติดต่อ 034-686024
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 00:00 - 23:59
นํ้าตกธารทิพย์
ออกจากตัวเมืองปราจีนบุรี มุ่งไปยังอำเภอประจันตคามจะมีน้ำตกจากแหล่งน้ำเขาใหญ่หลายแห่ง เขาว่ากันว่าเป็นอำเภอที่มีน้ำตกใหญ่น้อยมากที่สุดในประเทศไทย ผ่านน้ำตกแรก "ธารทิพย์" ในวันธรรมดาค่อนข้างเงียบ น้ำตกด้านล่างเป็นธารน้ำเหมาะแก่การเล่นน้ำ ส่วนด้านบนเดินเท้าขึ้นไป 1 กิโลเมตร พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เดินต่อไปจะพบทางเดินลงที่ค่อนข้างชันแต่มีราวบันได (ในช่วงหน้าฝนพื้นค่อนข้างลื่น) จะพบแนวน้ำตกไหลผ่านแนวหินที่มีแนวหินสวยงามมาก ระหว่างทางพบฝูงผีเสื้อหลากหลาย (โดยคุณ เจ้าชวนชิม)
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงหมายเลข 5026 (จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสายปราจีนบุรี - ประจันตคาม เส้นทางหลวงหมายเลข 3452 ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม) ประจันตคาม , ประจันตคาม , ปราจีนบุรี
เบอร์ติดต่อ 03-731-2282
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:30 - 17:00
นํ้าตกช่องลม
นั่งเรือมาสัก 15 นาทีก็ถึงทางลงเดินไปน้ำตกแล้ว ซึ่งปกติถ้าหน้าน้ำเย็นหลังเดือน สิงหาคมไปแล้วเรือจะเข้าใกล้น้ำตกได้เลย แต่เราจะอดเห็นอีกมุมของทางเดินอันสวยงาม อลังการ ของสองข้างทาง ตามทางเดินจะเป็นน้ำตกลำธารไหลตลอดทาง มีโขดหินสวย ได้ปีนป่ายกันสนุก ได้เหงื่อเหนื่อยพอควร เราไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคมมีฝูงผีเสื้อด้วยสวยมากๆ พอเดินไปจนสุดทางก็จะเจอน้ำตกช่องลม น้ำไหลเยอะเลยเพราะเข้าหน้าฝนแล้ว เล่นน้ำกันจนหนำใจ (โดยคุณ Hana)
ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 หินตั้ง , เมืองนครนายก , นครนายก
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 18:00
นํ้าตกชันตาเถร
น้ำตกชันตาเถรเป็นวิวภูเขาสวยงาม เขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ เห็นแล้วชื่นใจแบบบอกไม่ถูก เมื่อเดินมาถึงน้ำตกก็รู้สึกหายเหนื่อยเลยค่ะ นับว่าเป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้มาเยือนน้ำตกแห่งเดียวในจังหวัดชลบุรีอย่างน้ำตกชันตาเถร ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกันคือ เนินตาเถร แอ่งตาเถร หุบตาเถร และชันตาเถร รวมระยะทางไป-กลับน้ำตกจนถึงชั้นสูงสุดประมาณ 1 กิโลเมตร นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี แบบลับ ๆ ที่ชิลล์อย่าบอกใครเลย (โดยคุณ Bae Bae)
ตั้งอยู่ที่ ถนน บ้านห้วยกุ่ม บางพระ , ศรีราชา , ชลบุรี
เบอร์ติดต่อ 03-842-7667
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:00 - 17:00
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ
1. บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
2. พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของอยุธยา เพราะมีความเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม น่าเที่ยวชม โดยมีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบจีน, ยุโรป และไทยให้เข้ากันได้อย่างลงตัว มีพระที่นั่งและตำหนักที่สำคัญ อาทิ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์, พระที่นั่งวโรภาษพิมาน, สภาคารราชประยูร, พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร, พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ, หอเหมมณเฑียรเทวราช, หอวิฑูรทัศนา, เก๋งบุปผาประพาส, อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หรืออนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม, อนุสาวรีย์พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ และเจ้าฟ้าสามพระองค์ เป็นต้น ที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพระราชวังบางปะอิน โทรศัพท์ 0 3526 1044, 0 3526 1549, 0 3526 1673
3. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา เขตเทศบาลเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่ที่เคยเป็นราชธานีเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ที่สืบเนื่องยาวนาน และมีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ โดยมีศิลปวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ งดงาม และทรงคุณค่า จนได้รับการเชิดชูคุณค่าไว้ในบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2534 จุดท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่น่าไปเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโบราณหรือพระราชวังหลวง ที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดราชบูรณะ, วิหารพระมงคลบพิตร, วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น
เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและโบราณสถานบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน ได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม และวัดไชยวัฒนาราม
หมายเหตุ: ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30- 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
4. เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี
เกาะแสมสาร หนึ่งในเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็น 1 ใน 9 เกาะ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย เช่น พายเรือคายัก ดำน้ำดูปะการัง และปั่นจักรยานชมธรรมชาติ เป็นต้น โดยปกติแล้วเกาะแสมสารเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเที่ยวแบบ One Day Trip ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ tis-museum.org
5. หาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี
หาดเตยงาม หาดสวยอีกแห่งในอำเภอสัตหีบ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวนาวิกโยธิน เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนวันหยุดของครอบครัว มีอาหารและที่พักไว้คอยรับรองนักท่องเที่ยวมากมาย แถมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น พายเรือคายัก ว่ายน้ำชมปะการังน้ำตื้น เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องทำการแลกบัตรที่บริเวณทางเข้าเสียก่อน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการแบ่งพื้นที่โซนเล่นน้ำ โซนที่พักเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อจัดระเบียบและดูแลได้โดยง่าย รวมถึงยังมีรถบริการขึ้นไปสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และขึ้นเขาชมความสวยงามของท้องทะเลสัตหีบอีกด้วย
6. น้ำตกสาริกา จังหวัดนครนายก
น้ำตกสาริกา ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลักษณะโยนตัวลงมาจากหน้าผาสูงชัน และมีความสูงถึง 9 ชั้นด้วยกัน เป็นน้ำตกที่เหมาะกับการเล่นน้ำ เพราะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง ยิ่งในช่วงฤดูฝนที่น้ำไหลแรง นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงน้ำที่ตกกระทบหินดังสนั่น น้ำกระเซ็นเป็นละอองขาว เป็นเสน่ห์ความงดงามที่ไม่ว่าใครก็อยากเดินทางมาเห็น ภายในมีบริการห้องน้ำ ร้านอาหารและห่วงยางให้นักท่องเที่ยวได้เช่าเสร็จสรรพ ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท
7. ล่องแก่งภูเกาะ จังหวัดสระบุรี
หากอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ไกลกรุงเทพฯ ลองไปล่องแก่ง ณ แก่งภูเกาะ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดยจุดลงเรืออยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 2224 กิโลเมตรที่ 13-14 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร เพลิดเพลินกับการล่องแก่งเรือยางหรือพายเรือคายัก ตลอดสายน้ำผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ กว่า 15 แก่ง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยสามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ดือนมีนาคม-ตุลาคม โดยยามน้ำลดเหมาะแก่การพายเรือคายัก ส่วนยามน้ำหลากในช่วงฤดูฝนสามารถล่องเรือยางขนาดใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ตลอดเส้นทางการล่องแก่ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย หรือสอบถามรีสอร์ทต่าง ๆ ในอำเภอมวกเหล็ก
8. อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสุดชิคในจังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเขางู ตำบลเกาะพลับพลา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพภูมิทัศน์ของเขาหินปูนที่ทั้งสูงและสวยงาม ล้อมรอบด้วยอ่างเก็บน้ำใส ท่ามกลางบรรยากาศชิล ๆ และผ่อนคลาย จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป อยู่ตรงบริเวณสะพานเลียบแม่น้ำทอดยาว ไว้สำหรับเดินถ่ายภาพวิวสวย ๆ รวมถึงยังมีศาลาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน และอย่าลืมแวะชมความสวยงามของภาพแกะสลักพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่กันด้วยนะ
9. ตลาดน้ำคลองบางน้อย จังหวัดสมุทรสงคราม
ภาพจาก gopfaster / Shutterstock.com
ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางน้อย หน้าวัดเกาะแก้ว อำเภอบางคนที ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองและสำคัญมากในลุ่มน้ำแม่กลอง มาเดินเที่ยวที่นี่ไม่ต้องห่วงเรื่องของกิน เพราะมีพร้อมเสร็จสรรพ ทั้งสินค้าผลิตผลจากเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผลไม้ ซึ่งมีทั้งลิ้นจี่ มะม่วง ส้มโอ มะเฟือง ชมพู่ และอีกสารพัดผลไม้ รวมถึงอาหารคาวหวานหลากหลาย แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม แถมยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำอีกเพียบ ทั้งการเดินชมบรรยากาศบ้านไม้เก่าแก่ หรือนั่งเรือแจวชมวิถีชีวิตชาวบ้านชุมชนริมน้ำ เยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับบรรยากาศความคลาสสิกที่ไม่เหมือนใคร เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
10. เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เกาะเกร็ด ถือเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ เดินทางสะดวก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ทุก ๆ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ร้านค้า ร้านอาหารก็ดูจะคึกคักสุด ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ดก็จะมีทั้งมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อย ๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ ทำเอาเพลิดเพลินใจไปอีกแบบ ที่นี่เปิดเวลาประมาณ 08.00-17.00 น.
11. ไหว้พระ 3 วัด จังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังอุดมไปด้วยสวนผลไม้และแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย แต่หนึ่งกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อไปเยือนฉะเชิงเทราคือการไหว้พระ เราเลยนำทริปไหว้พระ 3 วัด มาแนะนำ ได้แก่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ "หลวงพ่อโสธร" พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ อันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวแปดริ้วและพุทธศาสนิกชนทั่วไป, วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมาน) ตั้งอยู่ที่ตำบลบางแก้ว ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีองค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ซึ่งถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยให้ได้ไปกราบไหว้
ภาพจาก suronin / Shutterstock.com
และวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กิโลเมตร เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิงเอี้ย) และระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบในโลกที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญาปารมิตาสูตรถือกันว่าผู้ใดได้ตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์ซึ่งได้บุญกุศล
12. บางแสน จังหวัดชลบุรี
ภาพจาก FS11 / Shutterstock.com
บางแสน เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของไทย แม้จะไม่ได้มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสอย่างเกาะแก่งทางภาคใต้ แต่ก็มีบรรยากาศที่สวยงาม มีกลิ่นอายของท้องทะเลอันเงียบสงบ โดยเฉพาะถ้าหากอยากกินอาหารทะเลสด ๆ ตลอดแนวชาวหาดก็มีร้านอาหารทะเลรสชาติเด็ด ๆ หลายร้านเลยทีเดียว บวกกับการเดินทางที่ไม่ไกลและสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงถูกเลือกเป็นโปรแกรมอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อยากจะเดินทางเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ ๆ
13. ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร
ตั้งอยู่ที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง เป็นตลาดที่ครบเครื่องทั้งเรื่องกินและช้อป เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สักที่เอาไว้เดินเล่นแบบเพลิน ๆ เพราะขับรถมาอึดใจเดียว คุณก็จะได้พบกับบรรยากาศความคึกคักของผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์แห่งนี้ ภายในตลาดละลานตาด้วยอาหาร ขนมไทย อาหารพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัด แถมยังมีศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้อาชีพการทำผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบลพันท้ายนรสิงห์ได้ เช่น การทำชาใบขลู่, การนวดแผนไทย และการเพาะเลี้ยงปลากะพง เป็นต้น รวมถึงสนุกไปกับการร้องเพลงและเล่นดนตรี แวะสักการะศาลเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์ ทำบุญปล่อยปลา และเดินชมป่าชายเลน เป็นต้น ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
14. พระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม
พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์เพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2450 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับครั้งมานมัสการพระปฐมเจดีย์ ภายในพระราชวังสนามจันทร์มีพระที่นั่งและพระตำหนักที่สวยงามมากมาย อาทิ พระที่นั่งพิมานปฐม, พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี, พระที่นั่งวัชรีรมยา, พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์, พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนย, พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์, พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์, พระตำหนักทับแก้ว, พระตำหนักทับขวัญ เป็นต้น
15. สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก Vassamon Anansukkasem / Shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย เป็นสวนสัตว์เปิดที่น่าท่องเที่ยวมาก ๆ ทันทีที่ได้เข้าไปด้านในจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแบบซาฟารี เหมือนไปเที่ยวทางฝั่งแอฟริกาใต้เลยล่ะ เพราะคุณจะได้พบกับสัตว์นานาชนิดอย่างใกล้ชิด เพียงเปิดหน้าต่างกระจกรถยนต์สัตว์ต่าง ๆ ก็จะเดินมาทำความรู้จักเราอย่างคึกคัก โดยเฉพาะยีราฟ ใครอยากได้ถ่ายรูปกับยีราฟคอยาวตัวเป็น ๆ ต้องมาที่นี่เลย ภายในสวนสัตว์เปิดซาฟารี ปาร์ค มีสัตว์หลายชนิด อาทิ ยีราฟ, ช้าง, ม้าลาย, อูฐ, เสือโคร่ง, สิงโต, เสือดาว, หมีควาย, ลามา, นกกระจอกเทศ, กวางชนิดต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีโชว์ช้างและจระเข้ให้ได้ชมกันด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ safaripark-kan.com
16. น้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี
น้ำตกสามหลั่น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น 1 ในน้ำตก กว่า 10 แห่งของสระบุรี ที่มีเอกลักษณ์เป็นลานหินกว้างวางเรียงซ้อนกันเป็นสามชั้น ลดหลั่นกันอย่างละชั้นสูงประมาณ 5 เมตร เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าน้ำตกสามหลั่น-อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณลานอเนกประสงค์ ผ่านน้ำตกสามหลั่น อ่างเก็บน้ำเขาสามหลั่น อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล น้ำตกแผงม้า อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง ไปสิ้นสุดบริเวณที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พฉ.1 (ซับปลากั้ง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น
17. วัดโบสถ์ (หลวงพ่อโตองค์ใหญ่) จังหวัดปทุมธานี
ภาพจาก Nokkapood1977 / Shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่อำเภอสามโคก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ "หลวงพ่อเหลือ" พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดปทุมธานี เดิมเป็นวัดเก่าโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวมอญอพยพมาจากเมืองหงสาวดีสร้างไว้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดี ภายในวัดมีรูปปั้นเหมือนของ "สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความสูงถึง 28 เมตร ซึ่งผู้คนจากทั่วทุกสารทิศนิยมเดินทางมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นจำนวนมาก
18. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาพจาก chaivit chana / Shutterstock.com
สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์จีนในไทยที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) และพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร โดยรูปแบบของหมู่บ้านได้จำลอง "เมืองลี่เจียง" เมืองเก่าแก่โบราณของสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายในถูกออกแบบได้สวยงามลงตัว เสมือนได้เดินเข้าไปในหมู่บ้านโบราณของเมืองจีนจริง ๆ โดยแต่ละหลังเป็นสถานที่ที่ให้บริการต่างกันออกไป มีร้านขายสินค้าและของที่ระลึก โรงหนัง โรงนวด โรงเตี๊ยม ร้านอาหาร ตลอดจนประติมากรรมที่งดงามอย่างเสามังกรฟ้า จากเมืองฉงอู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งยังสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา บนหอคอยชมวิว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบของอุทยานมังกรสวรรค์ เหมาะแก่การเก็บภาพประทับใจไว้อย่างยิ่ง เปิดบริการทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชม
19. ตลาด 100 ปี ระแหง จังหวัดปทุมธานี
ภาพจาก FS11 / Shutterstock.com
ตลาดร้อยปีระแหง ตลาดเก่าที่ยังมีเสน่ห์ ตั้งอยู่ที่ริมคลองระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว เป็นตลาดโบราณริมน้ำอายุ 100 ปี ภายในเป็นห้องแถวที่สร้างด้วยไม้ติดต่อกัน เกิดจากการที่ผู้คนสมัยก่อนสัญจรทางเรือและทางรถไฟ โดยมีทางรถไฟสายแรกคือสายตลาดระแหง-บางบัวทอง มาสิ้นสุดที่โรงเรียนวรพงษ์ ต่อมาการคมนาคมเจริญขึ้น มีถนนผ่านหน้าอำเภอ ผู้คนหันมาสัญจรทางรถยนต์กันมาก กิจการรถไฟก็ล้มเลิกไป แต่ยังคงเหลือตลาดเอาไว้ให้เป็นอนุสรณ์ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณตลาดระแหงยังมีการอนุรักษ์วิถีชีวิตริมคลอง และสถาปัตยกรรมบ้านเรือนไม้หลังคาจั่ว อีกทั้งยังมีการจำหน่ายสินค้าเกษตร, ร้านยาจีนและยาแผนโบราณ, ร้านอาหาร, ร้านตัดผม รวมทั้งมีศาลเจ้าและโรงงิ้วภายในชุมชนอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดระแหง ปทุมธานี
20. เที่ยวอำเภอเมืองลพบุรี
ภาพจาก Goldquest / Shutterstock.com
ต่อด้วย "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟลพบุรี โดดเด่นด้วยพระปรางค์องค์ใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงตั้งแต่ฐานถึงหน้าบัน ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นที่งดงาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเขมร ภายในองค์ปรางค์มีจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่นรูปพระพุทธเจ้าและพระสาวกเจดีย์รายและพระปรางค์ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีวิหารเก้าห้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารที่มีผนังยาวโดยมีช่วงเสากั้นอยู่รวมเก้าช่วงเสา เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งได้รับอิทธิพลจากชาวต่างประเทศ
"พระนารายณ์ราชนิเวศน์" ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง ชาวเมืองลพบุรีเรียกที่นี่กันจนติดปากว่า "วังนารายณ์" เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2208-2209 ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตก และปิดท้ายที่ "บ้านหลวงรับราชทูต (บ้านวิชาเยนทร์)" ตั้งอยู่ที่ถนนวิชาเยนทร์ ลักษณะเป็นกลุ่มบ้านที่ก่อสร้างขึ้นด้วยอิฐ มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป มีกำแพงล้อมโดยรอบ ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่รับรองเอกอัครราชทูตจากฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ปัจจุบันที่นี่หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างต่าง ๆ อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
อ้างอิง : https://travel.kapook.com/view189578.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
แฮมเบอร์เกอร์
ขั้นตอนแรกคือ สร้างหน้างา นขึ้นมาก่อน ขอบคุณค่ะ/ครับ💓